UFABETWINS กล่าวสำหรับการโรมรันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

UFABETWINS

ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การเจอกันของสองยักษ์ใหญ่

ร่วมภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษเท่านั้น หากแต่มันยังมีความหมายถึงรากเหง้าของคนทั้งสองเมือง ซึ่งแย่งชิงความยิ่งใหญ่กันมาตลอด ไล่ตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในส่วนของเกม ลูกหนังบนสนามเพียวๆ นับเป็นเวลานานกว่า 60 ปี

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง แมนฯ ยูไนเต็ด ขับเคี่ยวกับ ลิเวอร์พูล มาตลอด แม้จะมี อาร์เซน่อล, ลีดส์ หรือ เชลซี โผล่มาร่วมแจมบ้าง แต่ก็เป็นเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว สงครามแข้งสุดคลาสสิคของอังกฤษจริงๆ ต้องเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล เท่านั้น

หลังสงครามโลกครั้งที่สองสงบ ลิเวอร์พูล สอยแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งเดิมไปครองก่อนในฤดูกาล 1946-47 ปล่อยให้ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของ แม็ตต์ บัสบี้ อดีตนักเตะ “หงส์แดง” มองอย่างอิจฉาตาร้อนจากอันดับที่สอง หลังปิดฉากซีซั่นด้วยอันดับสองสามปี

UFABETWINS

ภายหลังจาก ยูไนเต็ด ประสบโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่ มิวนิค ในปี 1958

บัสบี้ ก็เริ่มสร้างทีมชุดใหม่ที่ครองความยิ่งใหญ่ในระดับทวีป และประเทศในเวลาต่อมา จนทำให้ชื่อ ลิเวอร์พูล หายไปจากแผนที่ลูกหนังพักเล็กๆ ชาว “ลิเวอร์พัดเลี่ยน” อาจปราชัยบนเส้นทางลูกหนัง แต่กลับไปได้สวยบนบรรทัดตัวโน๊ตเมื่อวงดนตรี “เดอะ บีทเทิ่ลส์”

ครองความยิ่งใหญ่ในโลกดนตรีด้วยอัลบั้ม “พลีส พลีส มี” ฝูง “แมนคูเนี่ยน” เริ่มนอนไม่หลับเมื่อ บิล แชงค์ลี่ นำ ลิเวอร์พูล กลับสู่ดิวิชั่นหนึ่งอีกครั้งในปี 1962 ก่อนคว้าแชมป์ลีกในปี 1964 และ 1966 รวมถึง เอฟเอ คัพ ในปี 1965 ขณะที่ ยูไนเต็ด

พยายามโต้ตอบด้วยแชมป์ลีกในปี 1965 และ 1967 รวมถึง เอฟเอ คัพ ในปี 1963 แชมป์ลีกปี 1967 เป็นสัญญาณแห่งยุคทองของ ยูไนเต็ด ในช่วงทศวรรตที่ 60 เมื่ออีกแค่ปีเดียวถัดมา บัสบี้

พา “เร้ด อาร์มี่” ครองแชมป์ยุโรปด้วยการขย่ม เบนฟิก้า โดยขุนพลที่ชวน ให้ตาลุกอย่าง 3 หทารเสือ จอร์จ เบสต์, บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน และ เดนิส ลอว์ ลิเวอร์พูล ที่แอบชำเลืองด้วยขอบตาร้อนผะผ่าว

ตั้งความหวังไว้กับพวก เอียน เซนต์ จอห์น, โรเจอร์ ฮันท์ และ เอียน คัลลาแฮน

UFABETWINS

กระทั่งอีกสองทศวรรษให้หลัง ก็เป็นเวลาของ ลิเวอร์พูล บ้าง

หลัง เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ ประกาศอำลาวงการ จน ยูไนเต็ด ตกต่ำถึงขนาดต้องลงไปเวียนว่ายในดิวิชั่นสองในยุคนายใหญ่ ทอมมี่ ด็อคเฮอร์ตี้ ผู้ล่วงลับ แชงค์ลี่ พา “หงส์แดง” สยายปีกด้วยการคว้าทั้ง ยูฟ่า คัพ ปี 1973 และ เอฟเอ คัพ ปี 1974 ก่อนลงจากบัลลังก์ เปิดทาง

ให้บ๊อบ เพสลี่ย์ ขึ้นเป็นใหญ่แทน “เดอะ ค็อป” อาจไม่ได้ตั้งความหวังกับ เพสลี่ย์ มาก แต่พวกเขากลับประสบความสำเร็จอย่างเพียบแปล้เมื่อได้ทั้งแชมป์ลีก และ ยูฟ่า คัพ แบบดับเบิ้ลในปี 1967

ก่อนที่ปีต่อมา จะได้เป็นแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ครั้งแรก แถมยังป้องกันแชมป์ลีกได้อีกต่างหาก อย่างไรก็ตาม ความฝันในการทำทริปเปิ้ลแชมป์ของ ลิเวอร์พูล ต้องพังทลาย ด้วยน้ำมืออริตัวแสบอย่าง

ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ปี 1977 ลิเวอร์พูล กระชากแชมป์ยุโรปมาครองอีกครั้งในปีถัดมาที่เมืองบรูช ต่อด้วยแชมป์ ยุโรปหนที่สามในปี 1981 หลังเอาชนะ เรอัล มาดริด ขณะที่ เพสลี่ย์

พาทีมเป็นแชมป์ลีกอีกสองสมัยในสองปีสุดท้ายที่ แอนฟิลด์ โจ เฟแกน เข้ามาสานงานต่อด้วยการพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีก และ ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1983-84

 

 

อ่านข่าวอื่นๆได้ที่ >>> UFABETWINS
หน้าแรก >>> บ้านผลบอล