UFABETWINS คริสตัล พาเลซ 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : เซลเฮิสต์ พาร์ค แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปขย่ำ คริสตัล พาเลซ ถึงถิ่น 0-2 โดยได้ประตูจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด นาทีที่ 45 และ อ็องโตนี มาร์ดซิยาล นาทีที่ 78 ทำให้จบเกม ปีศาจแดง คว้า 3 คะแนน ไล่บดล่าพื้นที่ท็อป 4 ต่อไป เริ่มเกม ทั้งสองทีมต่างเปิดเกมบุกเข้าใส่กันในช่วง 10 นาทีแรก โดยเป็นเจ้าบ้าน
ได้โอกาสลุ้นก่อนจากลูกยิงของ วิลฟรีด ซาฮา แต่ เด เคอา ยังป้องกันเอาไว้ได้ จนถึงครึ่งชั่วโมงแรก เกมยังคงสู้กันในแดนกลางเป็นส่วนใหญ่ โดยทั้งสองทีมยังแทบไม่มีโอกาสจบสกอร์ที่มีลุ้นเป็นประตูขึ้นนำเลยในช่วง 30 นาทีที่ผ่านมา ช่วงท้ายครึ่งแรกเกมค่อนข้างเปิดแลกกันมากขึ้น ในนาทีที่ 45 ทีมเยือนมาได้
ประตูออกนำ 0-1 จากจังหวะที่ บรูโน จ่ายทะลุเข้าเขตโทษให้ แรชฟอร์ด ลากเข้าไปก่อนจะหลอกผู้เล่น พาเลซ และยิงเข้าไปนิ่ม ๆ ด้านเจ้าถิ่นเองก็มีลุ้นในช่วงทดเวลาจากจังหวะฟรีคิกของ มิลิโวเยวิช แต่ เด เคอา ยังบินมาปัดออกไปได้ทัน ทำให้จบครึ่งแรก ปีศาจแดง ออกนำ 0-1 เริ่ม 45 นาทีหลัง เป็นเจ้าบ้านที่ดูทำ
เกมมีลุ้นมากกว่า กระทั่งนาทีที่ 55 เจ้าบ้าน ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้แล้วจากจังหวะชาร์จของ จอร์แดน อายิว แต่สุดท้าย VAR จับว่าเป็นการล้ำหน้าไปก่อน หลังจากนั้น ดิ อีเกิลส์ ดูจะเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ ส่วนผู้มาเยือนถอยลงมาเน้นรับและรอจังหวะสวนกลับ นาทีที่ 74 ทีมเยือนเกือบได้ประตูที่สองจากการ
สวนกลับ แรชฟอร์ด กระชากไปถึงสุดเส้นก่อนจะตบกลับมาให้ บรูโน ซัดโล่ง ๆ บอลไปชนเสาอย่างเสียดาย และต่อจากนั้นเพียง 4 นาที ปีศาจแดง มาได้ประตูนำห่าง 0-2 จากการสวนกลับ แรชฟอร์ด จ่ายเข้าเขตโทษให้ มาร์กซิยาล มีพื้นที่ก่อนจะยิงเสียบเสาไกลเข้าไป ท้ายเกม เจ้าบ้านเกือบได้ประตูตีไข่แตกจาก
จังหวะหลุดของ ซาฮา แต่ยังคงยิงไปติดเซฟของ เด เคอา อีกครั้ง ช่วงทดเวลาทั้งสองทีมมีลุ้นทำประตูเพิ่มแต่ยังไม่เฉียบขาดกันมากพอ ทำให้จบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไปได้ 0-2 คว้า 3 คะแนนไล่จี้กลุ่มท็อป 4 ต่อไป รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม
คริสตัล พาเลซ : กูไอต้า, วอร์ด, แดนน์, ซาโก้, ฟาน อานโฮลท์, มิลิโวเยวิช, แม็คคาร์ธีย์, แม็คอาเธอร์, ซาฮา, ทาวน์เซนต์, อายิว ตัวสำรอง : เฮนเนสซีย์, เคลลี, วูดส์, มิทช์เชลล์, ไรด์วอลด์, คูยาเต้, เมเยอร์, ชลุปป์, ปิแอร์ริ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เด เคอา, วาน-บิสซาก้า, ลินเดเลิฟ, แม็คไกวร์, โฟซู-เมนซาห์, แม็คโทมิเนย์, ป็อกบา, กรีนวูด, เฟร์นันเดส, แรชฟอร์ด, มาร์กซิยาล ตัวสำรอง : โรเมโร, ไบยี, ดาโลต์, มาติช, เฟร็ด, เจมส์, มาต้า, ลินการ์ด, อิกาโล
จิ้งจอกคืนฟอร์ม เปิดรังหัก ดาบคู่ 2-0 จี้สิงห์ 1 เเต้ม
ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019-2020 นัดที่ 36 ระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเหย้า คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเจ้าบ้าน วางหมากมาในแผน 3-4-3 โดยใช้สามแนวรุกเป็น อโยเซ เปเรซ, เจมี วาร์ดี้ และ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ รวมถึงยังตัดสินใจส่งดาวรุ่งวัยเพียงแค่
19 ปีอย่าง ลุค โธมัส ลงประเดิมสนามครั้งแรกให้ทีมชุดใหญ่ในตำแหน่งวิงแบ็คซ้าย ด้านทีมเยือนของ คริส ไวล์เดอร์ เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-5-2 ด้วยการฝากความหวังในแนวรุกไว้ที่คู่กองหน้าอย่าง โอลี แม็คเบอร์นี ซึ่งจะประสานงานร่วมกับ เดวิด แม็คโกลดริก ผลปรากฏว่า ครึ่งเเรก นาทีที่ 29 เจ้าบ้านที่บุก
มากว่าก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ลุค โธมัส จ่ายหักจากด้านซ้ายเข้ามาให้ อาโยเซ เปเรซ จับหนึ่งจังหวะก่อนยิงเสียบมุมเข้าไป เข้าสู่ข่วง 5 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก ทีมเยือนหลังเสียประตูไป ทั้ง โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ และ เดวิด แม็คโกลดริค ยังไม่สามารถบอลเจอ จบ 45 นาทีแรก เลสเตอร์ นำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 51 เลสเตอร์ น่าจะได้ประตูที่ 2 ยูริ ติเลอม็องส์ จ่ายไปให้ เจมี่ วาร์ดี้ ยิงไปโดนข้างเสาด้านนอกอย่างน่าเสียดาย ต่อมาเลสเตอร์ มีโอกาสทองอีกครั้งในนาทีที่ 61 เจมี่ วาร์ดี้ ไหลต่อให้ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ แต่ก็ยังยิงไปติด ดีน เฮนเดอร์สัน ที่เซฟช่วยทีมเยือนได้อีกครั้ง อีก 2 นาทีต่อมา เชฟฯ ยูไนเต็ด เกือบได้
ประตูตีเสมอเช่นกัน แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ยังเซฟจังหวะยิงจ่อๆ ของ จอห์น เอแกน เอาไว้ได้ นาทีที่ 74 เจมี วาร์ดี้ จ่ายให้ ยูริ ติเลอม็องส์ อีกครั้ง แต่ก็ยังยิงไปติด ดีน เฮนเดอร์สัน ที่เซฟได้อย่างสุดยอด นาทีที่ 79 เลสเตอร์ มาได้ประตูขึ้นนำ 2-0 สำเร็จ จังหวะนี้ เจมี วาร์ดี้ ไหลจากทางซ้ายเข้ามากลางให้ เดมาราย เกรย์
ตัวสำรองยิงไม่พลาด ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เชฟฯ ยูไนเต็ด พยายามบุกเพื่ออย่างน้อย 1 ประตูในเกมนี้แต่ไม่สามารถทำได้ จบเกม เลสเตอร์ ชนะ 2-0 มีเพิ่มเป็น 62 แต้มอยู่อันดับ 4 ต่อไปโดยตามหลังเชลซี อันดับ 3 เพียง1แต้ม
ปิดฉาก! ชุดขาว เฉือนหวิว เรือดำน้ำ 2-1 ผงาดแชมป์ลาลีกา สมัยที่ 34
การแข่งขันฟุตบอลลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2019-20 นัดที่ 37 เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา คู่ที่น่าสนใจระหว่าง “จ่าฝูง” เรอัล มาดริด เปิดสนามเอสตาดิโอ อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน ต้อนรับการมาเยือนของ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล ทีมอันดับ 5 ของตาราง เรอัล มาดริด นัดนี้ต้องสามคะแนนเท่านั้นหรือแช่งให้ บาร์เซ
โลน่า แพ้ในแมตช์ที่หวดพร้อมกัน จะการันตัแชมป์ลีกสมัยที่ 34 เกมนี้ ส่ง เอแด็น อาซาร์ ลงเล่นร่วมกับ คาริม เบนเซม่า และ โรดริโก้ ส่วน บียาร์เรอัล มี เคราร์ด โมเรโน่ ค้ำหอก ส่วน ซานติ กาซอร์ล่า เป็นเพียงสำรอง ผลปรากฏว่า เริ่มเกมมานาที 15 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นในจังหวะที่ กาเซมีโร่ โยนบอลให้ คาริม เบนเซม่า
ตวัดยิงด้วยซ้าย บอลย้อนถากเสาไกลออกไปแบบได้ลุ้น อีก 2 นาทีถัดมา โทนี่ โครส จ่ายให้ ลูก้า โมดริช ตั้งป้อมซัดระยะ 25 หลา บอลพุ่งเข้ากรอบแต่ว่า เซร์คิโอ อาเซนโฆ ซูเปอร์เซฟช่วยทีมเยือนเอาไว้ได้ นาที 28 เรอัล มาดริด ได้ประตูนำ 1-0 เมื่อตัดบอลแดนกลางได้ก่อนเป็น ลูก้า โมดริช ลากจี้ขึ้นหน้าแล้วไหลเข้า
เขตโทษฝั่งขวาให้ เบนเซม่า ที่วิ่งฉีกเข้าไปกดด้วยขวาส่งบอลลอดขา เซร์คิโอ อาเซนโฆ เข้าไป บียาร์เรอัล พยายามทำเกมรุกเพื่อตีเสมอให้ได้ นาที 39 ซามูเอล ชุควูเอเซ่ ได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษฝั่งซ้ายแต่ก็ติดบล็อกเจ้าถิ่น ทำให้จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำ 1-0 ครึ่งหลัง นาที 74 เรอัล มาดริด ได้จุดโทษเมื่อ
รามอส วิ่งเติมเกมรุกก่อนตัดบอลได้แดนกลางแล้วลากถึงเขตโทษ บียาร์เรอัล แล้วโดนทำฟาวล์ กัปตันทีมจอมถล่มเตรียมตัวยิงแต่โชว์ลูกเล่นเขี่ยบอลให้ เบนเซม่า วิ่งเข้ามายิงเข้าไป แต่ผู้ตัดสินมองว่า เบนเซม่า วิ่งเข้าเขตโทษก่อน รามอส โดนบอล จึงให้ยิงใหม่ คราวนี้เปลี่ยนเป็น เบนเซม่า รับหน้าที่ยิงเข้าไปอย่าง
เด็ดขาด เรอัล มาดริด นำ 2-0 บียาร์เรอัล ตีไข่แตกได้ในนาที 83 จากการยิงของ บิเซนเต้ อิบอร์ร่า ทำให้สกอร์กลับมาเป็น 2-1 แต่จากนั้นก็ไม่สามารถตามตีเสมอได้ จบเกม เรอัล มาดริด ทำได้ตามเป้าเอาชนะ บียาร์เรอัล 2-1 คว้าแชมป์ลา ลีกา สมัย 34 ไปครองและเป็นสมัยแรกในรอบ 3 ปีหลังสุด
คลิกเลย >>> UFABETWINS
อ่านเพิ่มเติม >>> https://www.office-yano.com/