หลังจากปล่อยให้บรรดาสาวก “เร้ด อาร์มี่” รอคอยมานาน ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค มิดฟิลด์วัย 23 ปีของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เตรียมจะเป็นนักเตะรายแรกที่จะตบเท้าเข้ามาสวมเสื้อ “ปีศาจแดง” ในซัมเมอร์นี้หลังจากสื่อชั้นนำต่างรายงานว่าทั้งสองทีมบรรลุข้อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยราคา 40 ล้านปอนด์ และเพื่อเป็นการต้อนรับ ฟาน เดอ เบค เราลองมาจัดแผนการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด กัน
ฟาน เดอ เบค ถือเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ในแดนกลาง เขาเคยได้รับบทบาทในทัพอาแจ็กซ์มาหลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น มิดฟิลด บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์, มิดฟิลด์ตัวรุก หรือแม้กระทั่งยืนสูงเป็น กองหน้าแบบฟอลส์ 9 ก็เคยมีมาแล้ว
ใน 37 นัดที่ลงเล่นฤดูกาลที่ผ่านมามี 19 ครั้งที่ลงเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกและ 18 ครั้งที่เป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง
ด้วยความหลากหลายนี้เอง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สามารถปรับเปลี่ยนแผนการเล่นเพื่อเรียกศักยภาพของเขาออกมาให้ได้มากที่สุด แต่ตำแหน่งเขาในทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะต้องมีการถกเถียงกันเล็กน้อย มาดูกันเขาจะลงตัวในแผนการเล่นใดบ้าง
ระบบ 4-2-3-1
แผนการเล่นนี้ถือเป็นแผนที่ โซลชา ใช้เป็นหลักในฤดูกาลที่ผ่านมา การมี ฟาน เดอ เบค ในระบบนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพเกมบุกของ “ปีศาจแดง” ได้มากขึ้นทีเดียว
มิดฟิลด์ชาวฮอลแลนด์จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในบทบาท บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ เขามีประสบการณ์ในการป้องกันแผงแบ็กโฟร์จึงน่าจะลงต่ำมาคอยช่วยคัฟเวอร์พื้นที่แดนกลางและคอยแบ่งเบาภาระ ปอล ป็อกบา ในการสร้างเกมรุก
ฟาน เดอ เบค เคยถอยลงไปเล่นในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับ 6 เกมในฤดูกาลที่ผ่านมาและเขามีค่าเฉลี่ยเข้าสกัดคู่แข่ง 2 ครั้งต่อเกม สูงเป็นอันดับ 4 ในทีม อาแจ็กซ์ ดังนั้นเขามีศักยภาพพอที่จะแทนที่ของ เนมานย่า มาติช ได้
อย่างไรก็ตาม มาติช ยังเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์ในตำแหน่งนี้มากกว่า จึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่ไว้ใจได้กับบทบาทตัวโฮลดิ้งรวมถึงการปัดกวาดเรื่องเกมรับ มันจึงเป็นคำถามว่าการจับ ฟาน เดอ เบค ลงเป็นมิดฟิลด์ตัวทำเกมหน้าแผงแบ็กโฟร์อาจจะเป็นการทำเสียของหรือเปล่า?
ระบบ 4-3-3
แผนการเล่นนี้เป็นระบบหลักที่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ใช้งานอยู่ โซลชา อาจจะปรับมาใช้แผนนี้เพื่อต้องการเกมบุกมากขึ้น ฟาน เดอ เบค จะได้ลงเล่นขนาบข้างด้วย ปอล ป็อกบา และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในแผงกองกลาง โดยมิดฟิลด์ชาวดัตช์จะมีส่วนร่วมกับเกมรุกมากกว่าแผนแรก แต่ ปอล ป็อกบา และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ต้องคอยคัฟเวอร์พื้นที่ให้เขา
ระบบ 4-4-2 (ไดอาม่อน)
โซลชา เคยใช้แผนการเล่นนี้อยู่บ้างแต่ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้มักจะได้ไม่ได้ผลสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมี ฟาน เดอ เบค เข้ามาในทีมเขาน่าจะมาเพิ่มมิติในการเล่นของแผงมิดฟิลด์ “ปีศาจแดง” ได้
โดยในแผนนี้เขาจะรับบทบาทเป็น บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ ขนานแท้ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาถนัดที่สุด พร้อมจะประสานงานเกมรุกกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ ปอล ป็อกบา โดย สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ หรือ เนมานย่า มาติช คอยคุ้มกันแดนหลัง
ฟาน เดอ เบค ยิงทั้งหมด 8 ประตูและ 6 แอสซิสต์ ในลีกฤดูกาลที่แล้วเขามีศักยภาพพอที่จะขยับขึ้นไปเล่นแทนที่ตำแหน่งของ บรูโน่ ถ้ากองกลางชาวโปรตุเกสบาดเจ็บหรือจำเป็นต้องพัก
ทว่าการที่ โซลชา จะเปลี่ยนแผนการเล่นที่ใช้มาตลอดก็ดูจะเป็นการเสี่ยงพอสมควร มันคงแปลกที่ศักยภาพแบบเขาอาจจะไม่ได้การันตีตัวจริงในทัพแมนฯ ยูไนเต็ดแต่ต้องยอมรับว่าแผงมิดฟิลด์ บรูโน่-ป็อกบา-มาติช ถือว่ากำลังลงตัวทีเดียว
อย่างไรก็ตาม โซลชา มักจะบ่นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีตัวหมุนเวียน ค่อนข้างน้อย และตัวสำรอง ไม่สามารถ แทนที่ตัวจริง ได้เมื่อต้องมีการหมุนเวียน หรือมีผู้เล่น บาดเจ็บ ซึ่งฤดูกาล ที่จะถึงนี้ หากจะให้มิดฟิลด์ ทั้งสาม คนดังกล่าว ลงเล่นทั้ง ในรายการหลัก ๆอย่างพรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกก็คงเป็น ไปไม่ได้
ดังนั้นหลัก ๆ แล้ว การคว้า ฟาน เดอ เบ็ก คือการเพิ่ม ขนาดของทีม ให้มีศักยภาพ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ในตำแหน่ง ม้านั่ง สำรอง เขาสามารถ ไว้วางใจได้ ได้มากกว่า การจะส่ง อันเดรียส เปรเยร่า หรือ เจสซี่ ลินการ์ด ลงเล่น
คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
อ่านข่าวอื่นๆที่ >>> https://www.office-yano.com/